สารบัญเนื้อหา
เพชรหนักเท่ากันทำไมขนาดถึงต่างกัน
1.สาเหตุมาจากอะไร ?
หากคุณกำลังดูเพชรขนาด 1 กะรัต 2 เม็ด ที่มีคุณภาพใกล้เคียงกัน และหนึ่งในนั้นมี Girdle ที่หนามาก (ขอบรอบนอกของเพชร) และอีกอันมีขนาดปานกลางที่เหมาะสม เพชรที่มี Girdle ที่หนามากจะดูเล็กกว่าอย่างเห็นได้ชัด ราคาของเพชรที่มี Girdle หนามากอาจจะถูกกว่า Girdle บาง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าควรซื้อ เพราะ Girdle ที่หนาอาจมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าก็จริง แต่เราจะได้น้ำหนักที่ไม่จำเป็นของเพชรเม็ดนั้นๆมา ซึ่งไม่ได้เพิ่มความแวววาวหรือความสวยงามใดๆ อันที่จริงแล้ว Girdle ที่หนาขึ้น อาจลดทอนความแวววาวของมันด้วยซ้ำ ดังนั้นในการเลือกซื้อเพชรอย่าลืมสำรวจความหนาของ Girdle ด้วย
“โดยปกติ Girdle ที่หนาเกินไปจะทำให้เส้นผ่านศูนย์กลาง/หน้ากว้าง ของเพชรเล็กลง ส่วน Girdle ที่บางเกินไปจะทำให้เส้นผ่านศูนย์กลาง/หน้ากว้าง ของเพชรใหญ่ขึ้น”
เพชรที่มี Crown สูงเกินไป แม้ว่านี่จะเป็นการเจียระไนจากเหมืองเก่า แต่เพชรเจียระไนสมัยใหม่บางครั้งจะถูกเจียระไนด้วย Crown ที่สูงมากเพื่อรักษาน้ำหนักของเพชรเจียระไนให้ได้มากที่สุด
Pavilian ที่พองเป็นอีกสัญญาณหนึ่งของการเจียระไนที่ให้ความสำคัญกับการรักษาน้ำหนักมากกว่าความสวยงาม เมื่อเพชรมี Girdle หนา Crowm สูง Pavilian พอง นั้นหมายความว่าเพชรเม็ดนั้นหนักเกินที่ควรจะเป็น แม้ว่ามักจะตรวจพบน้ำหนักส่วนเกินได้ด้วยตาเปล่าจากมองด้านหน้ากว้างเพชร แต่วิธีที่ง่ายที่สุดคือการดูจากใบเซอร์สถาบันไม่ว่าจะเป็น GIA HRD AGS
2. บทสรุป
บ่อยครั้งที่ผู้ซื้อมักมองหาเพชรที่หน้ากว้างกว่าขนาดมาตรฐาน เพื่อให้ได้สวมเพชรที่มองดูแล้วเม็ดใหญ่ขึ้นกว่าที่ควร แต่สิ่งที่ต้องแลกมาคือการพบปัญหาเกี่ยวกับ Window , Fish eye ซึ่งทำให้ลดความแวววาวของเพชรลง ดังนั้นการสวมใส่เพชรที่สถาบันตรวจสอบว่าอยู่ในระดับ Excellent ดูแล้วจะเป็นทางเลือกดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการสวมใส่เพชรที่เปล่งประกายดีเยี่ยม (สามารถอ่านบทความ สัดส่วนการเจียระไนเพชรที่ดี ได้ที่ลิ้งนี้)