ระดับความโปร่งใสของเพชร (Transparency)

 

1. ระดับความโปร่งใส

สถาบัน GIA ได้นิยามความโปร่งใสว่า คือ คุณสมบัติที่วัตถุสามารถส่งผ่านแสงได้ โดยแบ่งเป็น 5 ประเภทดังนี้

  • Transparent หมายถึง วัตถุโปร่งใส สามารถมองทะลุผ่านได้อย่างชัดเจน

ระดับ-ความโปรงใส-เพชร

  • Semi-Transparent หมายถึง วัตถุกึ่งโปร่งใส สามารถมองทะลุผ่านแล้วเบลอ หรือ พร่ามัว

ระดับ-ความโปรงใส-เพชร-กึ่งโปร่งใส

  • Translucent หมายถึง โปร่งแสง เพชรที่ขุ่นมัวเหมือนน้ำนม

ระดับ-ความโปรงใส-เพชร-โปร่งแสง

  • Semi-Opaque หมายถึง กึ่งทึบแสง สามารถมองเห็นแสงลอดผ่านได้เพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่จะผ่านได้บริเวณขอบ

ระดับ-ความโปรงใส-เพชร-กึ่งทึบแสง

  • Opaque หมายถึง ทึบแสง โดยไม่มีแสงใดๆสามารถทะลุผ่านเพชรได้

 

2. ความสำคัญความโปร่งใสต่อการเลือกซื้อเพชร

     ความโปรงใส เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญต่อราคาเพชรมาก โดยปกติแล้วผู้บริโภคมักไม่ได้ให้ความสนใจเท่าใดนักเนื่องจากเพชรที่มีลักษณะโปร่งแสงไม่ค่อยได้รับความนิยมในตลาดส่วนใหญ่ แม้ว่าเพชรโปร่งแสงจะมีมูลค่าต่ำกว่าเพชรเกรดโปร่งใสเป็นเท่าตัว

     เพชรที่มีความโปร่งใสเม็ดใหญ่ในอดีตจำนวนมากนั้น เป็นที่ทราบกันดีว่าได้มาจากเหมืองใกล้กับศูนย์กลางการค้าเพชรของ Golconda ในอินเดีย ด้วยเหตุนี้ คำว่า “Golconda” จึงถูกนำมาใช้ในการค้าเป็นครั้งคราวเพื่ออธิบายถึงเพชรที่มีความโปร่งใสสูงพร้อมคุณลักษณะอื่นๆ ที่ดีอีกด้วย ตัวอย่างเช่น Gübelin Gem Lab ออกภาคผนวก Golconda ว่าเป็นเพชรคุณภาพดี  แต่ไม่ใช่การกำหนดแหล่งกำเนิดทางภูมิศาสตร์ว่ากำเนิดจาก Golconda ในกรณีกลับกัน เพชรที่มาจากพื้นที่ Golconda ไม่จำเป็นต้องมีคุณภาพสูงเสมอไป เพราะเพชรที่ดียังถูกพบในประเทศอื่นๆ นอกเหนือจากอินเดีย และแม้แต่ในสหรัฐอเมริกา

 

เหมือง-เพชร-ขุด-กอลกอนด้า-golconda

 

     ความสะอาดและความโปร่งใสนั้นส่งผลต่อความสวยงามของเพชรเช่นกัน หากมีจุดตำหนิที่ขุ่นมัวในเพชรที่โปร่งใส ก็ทำให้เพชรหมดความสวยงามได้ หรือ หากเพชรสะอาดแต่มีค่าความโปร่งใสน้อย ก็มักจะทำให้เพชรมีมูลค่าน้อยลง  ซึ่งในกรณีส่วนใหญ่ ระดับความโปร่งใสมักไม่ถูกระบุในเพชรที่จำหน่ายทั่วไป 

     หากคุณต้องการซื้อเพชรเม็ดงามสักเม็ด การดูเพชรที่มีการ CUTTING ดีเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพชรนั้นต้องมีความโปร่งแสงที่ดีด้วย โดยในการตรวจสอบความโปร่งใส ให้ตรวจสอบเพชรที่มุมต่างๆ แล้วดูว่าใสเหมือนแก้วหรือน้ำบริสุทธิ์หรือไม่ เพชรที่หงายหน้าควรจะสุกใสและควรมีคอนทราสต์ที่ชัดเจนระหว่างบริเวณที่มืดและสว่าง เมื่อตัดสินความโปร่งใส ต่อมาให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเพชรนั้นสะอาด ตรวจสอบทั้งด้วยตาเปล่าและแว่นขยายกำลัง 10 เท่า และ ดูภายใต้สภาพแสงที่แตกต่างกัน โปรดทราบว่าวัตถุหรือผนังสีขาวสามารถสะท้อนเข้าไปในเพชรได้ ทำให้เพชรดูโปร่งใสน้อยกว่าที่เป็นจริง หากมีตัวอย่างเพชรที่มีความโปร่งใสสูงสำหรับเปรียบเทียบจะเป็นตัวช่วยที่ดีมาก จะทำให้การประเมินของคุณแม่นยำยิ่งขึ้น
     อย่างไรก็ดีคุณไม่จำเป็นต้องใช้แว่นขยายในการส่องหาเพชรที่มีปัญหาด้านความโปร่งใส คุณสามารถมองเห็นความขุ่นมัวได้ด้วยตาเปล่า หากเพชรไม่เปล่งประกายแม้อยู่ภายใต้แสงสปอตไลท์ในร้านเพชร แสดงว่าเพชรเม็ดนั้นมีไม่โปร่งใสอย่างแน่นอน เพชรจะยิ่งดูแย่ลงเมื่ออยู่ห่างจากแสงไฟ อย่างไรก็ตาม โปรดจำไว้ว่าเพชรที่มีคราบสกปรกเกาะ และ รอยนิ้วมือ จะทำให้ดูทึบแสงกว่าปกติ ดังนั้น สิ่งสำคัญคือต้องเช็ดล้างก่อนตรวจดูทุกครั้ง (สามารถอ่านบทความ เทคนิกการตรวจดูเพชร ได้ที่ลิง้นี้)

 

เลือกชมเพชร CVD (Lab Grown Diamond) และ เครื่องประดับของเราได้ที่นี่

ผู้เขียนบทความ

ขออภัย! ไม่สามารถคัดลอกข้อความได้