สารบัญเนื้อหา
วิธีแยกดูความแตกต่าง เพชรธรรมชาติ กับ เพชร HPHT ด้วยเครื่องมือขั้นสูง
1. Optical Spectroscopy
หนึ่งในเทคนิคที่สำคัญที่สุดที่ห้องปฏิบัติการอัญมณีศาสตร์นิยมใช้ใช้คือ Optical Spectroscopy อัญมณีประเภทต่างๆนั้น มีลักษณะการดูดกลืนและการส่งผ่านสเปกตรัมที่แตกต่างกัน ซึ่งเราใช้ค่าที่แตกต่างกันนี้ในการจำแนก ต่างจากสเปกโทรสโคปแบบปริซึมแบบใช้มือถือขนาดเล็ก จะสามารถดูเฉพาะบริเวณที่มองเห็นได้ของสเปกตรัมแม่เหล็กไฟฟ้าเท่านั้น เครื่อง Spectrophotometers นั้นเป็นเครื่องมือที่วิเคราะห์สเปกตรัมได้หลากหลาย และ สามารถบันทึกข้อมูลในเชิงปริมาณโดยการลงจุดกราฟที่แม่นยำ
2. Ultra violet-Visible Near Infrared (UV-VIS-NIR)
เป็นเครื่องสามารถวัดปริมาณแสงที่เพชรได้ดูดซับหรือส่งผ่าน ที่ความยาวคลื่นตั้งแต่ 190 ถึง 1100 นาโนเมตร ซึ่งสามารถตรวจพบความแตกต่างที่ทำให้เกิดสีได้หลายหลาย โดยเพชรแท้ธรรมชาติกับเพชรแท้ HPHT จะมีค่าที่แตกต่างกันในส่วนนี้ เพชรที่ปลูกด้วยวิธี HPHT บางเม็ดแสดงคุณสมบัติของนิกเกิลในสเปกตรัมของ UV-VIS-NIR เนื่องด้วยนิกเกิลมักถูกใช้เป็นส่วนประกอบของตัวเร่งปฏิกิริยา/ตัวทำละลายในระหว่างการเจริญเติบโต และด้วยเหตุนี้จึงมักมีแร่นิกเกิลตกค้างในเนื้อเพชร อย่างไรก็ดีนิเกิลสามารถพบได้ในเพชรธรรมชาติ แต่จะพบได้ในปริมาณน้อยมาก
3. Fourier-transform Infrared (FTIR)
เครื่อง FTIR นั้นจะวัดปริมาณแสงที่อัญมณีดูดซับหรือส่งผ่านที่ความยาวคลื่นตั้งแต่ 1,000 ถึง 25,000 นาโนเมตร (12,000 ถึง 400 ซม.¹) เครื่อง FTIR มักอ้างอิงเป็น wave number (cm) มากกว่าหน่วยนาโนเมตร (nm) วิธีการจำแนกโดยใช้ FTIR ที่นิยมมากที่สุดคือการวิเคราะห์พื้นที่ one-phonon region of the spectra ตั้งแต่ช่วง 1,000 ถึง 1,400 ซม.¹ ซึ่งสามารถกำหนดปริมาณและ รูปแบบของไนโตรเจนในเนื้อเพชรได้
4. Energy dispersive x-ray fluorescence (EDXRF)
เครื่อง EDXRF สามารถระบุองค์ประกอบทางเคมีในเม็ดเพชรได้ เป็นเทคนิคที่มีประโยชน์ในการตรวจจับตัวเร่งปฏิกิริยาที่เป็นโลหะในเพชรที่ปลูกในห้องปฏิบัติการ โดยต้องมีความสะอาดตั้งแต่ SI2 หรือมีตำหนิมากกว่านั้น ข้อดีคือเครื่องนี้สามารถวิเคราะห์โลหะที่เจือปนในเพชรได้ทั้งเพชร่วง หรือ เพชรที่ฝังลงบนตัวเรือนแล้ว ทั้งยังสามารถตรวจจับได้แม้เพชรมีขนาด 1 ตังค์
5. DiamondView
DiamondView เป็นเครื่องที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบ ในรูปแบบฟลูออเรสเซนต์ที่แตกต่างกันของเพชร โดยเครื่องจะทำการยิงแสงอัลตราไวโอเลตในรูปแบบ Short Wave พลังงานความเข้มข้นสูง เพชรแท้ธรรมชาติและเพชรแท้ HPHT จะส่งผลลัพธ์ต่อปฏิกริยาการฟลูออเรสเซนต์แตกต่างกัน ซึ่งเราสามารถอ่านค่าได้จากตารางสรุปผลลัพธ์
6. Cathodoluminescence (CL)
Cathodoluminescence มีหลักการคือทำให้เพชรสัมผัสกับลำแสงอิเล็กตรอนที่รุนแรง พลังงานของอิเล็กตรอนจะไปกระตุ้นผลึกตำหนิ ส่งให้ผลเกิดการเรืองแสง ทั้งสีที่ปรากฏ และ ความเข้มของการเรืองแสงนั้น สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่าหรือบันทึกค่าเป็น CL Spectra นักอัญมณีจะอ่านค่าความแตกต่างจากกราฟที่ได้ (สามารถอ่านบทความ วิธีแยกเพชรธรรมชาติกับhphtด้วยเครื่องมือพื้นฐาน ได้ที่ลิ้งนี้)