รูปทรงต่างๆของเพชร

     เพชรกลมได้รับความนิยมสูงสุด จึงไม่แปลกเลยที่ ราคาจะสูงกว่าเหลี่ยมแฟนซีอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ทรงมาคี ทรงไข่ ทรงสี่เหลี่ยม อาจะมีราคาต่ำกว่าได้ถึง 5%-30% จะเห็นได้จากงานแต่งของคนมีชื่อเสียง ที่มักใช้เพชรเม็ดใหญ่ไซส์หลายกะรัต แต่เป็นทรงแฟนซี อยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากจะได้ขนาดที่ใหญ่ แต่มีราคาที่ย่อมเยากว่า 

รูปทรงเพชรนั้นมีมากมากเนื่องจากมีผู้คิดค้นเหลี่ยมใหม่ๆอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ศัพท์รูปแบบการเจียระไนพื้นฐานที่เราควรทราบก่อนมีดังนี้

  • เหลี่ยมลูกโลก

shape-รูปทรง-เพชร-เหลี่ยม-ลูกโลก-rosecut

  • กุหลาบ

shape-รูปทรง-เพชร-เหลี่ยม-กุหลาบ-singlecut

  • เกสร

shape-รูปทรง-เพชร-เหลี่ยม-กลม-brilliant

 

1. ภาพแสดงรูปทรง

 

1.1 กลม

 

shape-รูปทรง-เพชร-เหลี่ยม-กลม-round

 

1.2 มรกต

shape-รูปทรง-เพชร-เหลี่ยม-มรกต-emerald

 

1.3 ไข่

shape-รูปทรง-เพชร-เหลี่ยม-ไข่-oval

 

1.4 หยดน้ำ

shape-รูปทรง-เพชร-เหลี่ยม-หยดน้ำ-pear

 

1.5 หัวใจ

shape-รูปทรง-เพชร-เหลี่ยม-หัวใจ-heart

 

1.6 มาคี

shape-รูปทรง-เพชร-เหลี่ยม-marquise-มาคี

 

1.7 ปริ๊นเซส

shape-รูปทรง-เพชร-เหลี่ยม-ปริ๊นเซสคัท-princess

 

1.8 เรเดียน

shape-รูปทรง-เพชร-เหลี่ยม-radiant-เรเดียน

 

1.9 คูชั่น

shape-รูปทรง-เพชร-เหลี่ยม-cushion-คูชั่น

 

1.10 ทรีเลียน

shape-รูปทรง-เพชร-เหลี่ยม-Trilliant-Cut-ทริลเลียน

 

1.11 บาเก็ต

shape-รูปทรง-เพชร-เหลี่ยม-บาเก็ด-baguette

 

2. ขั้นตอนการเจียระไน

     คือขั้นตอนการนำก้อนเพชรดิบมาขึ้นเป็นรูปทรงที่ต้องการ เพื่อให้เกิดความสวยงาม มีไฟ มีประกาย การกระจายแสงที่สูงขึ้น แม้ว่าก้อนดิบของเพชรจะมีความแวววาวจนในสมัยโบราณ มีการนำมาทำเป็นลูกปัดเครื่องประดับ หรือ เครื่องราง แต่การการที่มนุษย์มีวิวัฒนาการที่มากขึ้น ทั้งทางเทคโนโลยี และได้เรียนรู้การคำนวณค่าดัชนีหักเห และการสะท้อนแสง ราวๆปีพ.ศ. 2300-2400 ได้มีผู้คิดค้นสูตรการเจียระไนที่ให้เพชรมีความสวยงามมากที่สุดมากมาย จวบจนปัจจุบันยังคงคิดค้นเหลี่ยมใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ปัจจัยส่วนใหญ่อยู่ที่ผู้เจียระไน ว่าสามารถเจียระไนเหลี่ยมได้สัดส่วนและความคมตามที่ต้องการหรือไม่ จนในปัจจุบันมีเครื่องที่สามารถตั้งค่าองศาและสัดส่วนของเพชรจวบจนเจียระไนได้ ซึ่งให้ความคมที่สวยงามกว่ายุคก่อนมาก

 

1. วิเคราะห์

     คือการคำนวนว่าเพชรก่อนนี้ควรเจียอย่างไรจึงจะได้น้ำหนักมากที่สุดเป็นจุดที่ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก ควรจะเจียรูปทรงไหน ตัดแบ่งอย่างไร จึงจะออกมาสวยงาม ซึ่งจุดนี้เป็นความชำนาญเฉพาะของแต่ละโรงงาน หรือบางเหลี่ยมที่ได้น้ำหนักมากกว่าแต่เจียแล้วจะไม่ได้ราคา ช่างก็จะยอมเสียเนื้อเพชรบางส่วนแล้วเจียระไนเป็นเหลี่ยมยอดนิยมแทน เพื่อให้ขายได้ง่ายกว่า ราคาดีกว่า

 

2. การผ่าเพชร

     เพชรดิบบางก้อนหากได้รูปทรงที่เจียระไนได้ดี ก็มักจะข้ามขั้นตอนนี้ แต่โดยพื้นฐานโครงสร้างผลึกของเพชรมักจะเป็นรูปปิรามิดประกบกัน ทำให้การผ่าครึ่งแล้วแบ่งเจียนะไนออกเป็น 2 เม็ด คุ้มค่ามากกว่า โดยให้หนึ่งเม็ดเป็นเม็ดใหญ่ที่กินส่วนของเนื้ออีกฝั่งไป 10-20% ส่วนอีกฝั่งที่เหลือเจียระไนเป็นเม็ดเล็ก

 

3. การกลึงโครงเพชร

     ขั้นตอนนี้จะทำการกลึงก้อนเพชรให้ได้โครงคร่าวๆที่ต้องการ ในสมัยก่อนการผลิตส่วนใหญ่เป็นการทำด้วยมือ ทำให้เพชรแต่ละเม็ดมีสัดส่วนไม่เท่ากันและต้องใช้ความชำนาญมาก ซึ่งในปัจจุบันมีการนำเครื่องเจียระไนอัตโนมัตมาใช้ คอมพิวเตอร์จะสามารถวิเคราะห์รูปทรงเพชรทุกอย่างออกมาให้เราเลือกได้ว่าจะเจียระไนรูปทรงไหน และสัดส่วนของเหลี่ยม องศาและความคมมีคุณภาพสูงมาก

 

4. การเจียระไน

     ขั้นตอนนี้จะนำเพชรติดกับด้ามจับแล้วเจียระไนลงบนโต๊ะจักร ค่อยๆแต่งทุกเหลี่ยมให้ได้สัดส่วนที่ต้องการอย่างช้าๆ อย่างที่ทราบกันดีเพชรเหลี่ยมเกสรมีเหลี่ยมราวๆ 57 เหลี่ยม(มากกว่านี้ได้แล้วแต่สูตรการเจีย) ทำให้ต้องใช้เวลา และความชำนาญที่ละเม็ดต่อเม็ด 

 

5. การขัดเงา

     เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการเจียระไนเพชร โดยจะใช้ผงขัดละเอียดชนิดพิเสษที่มีความแข็งมาก ค่อยๆขัดเงาด้วยมือ เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากที่จะส่งผลสำคัญให้เพชรมีความแวววาว (สามารถอ่านบทความ เพชรเหลี่ยมแปลกๆในโลก ได้ที่ลิ้งนี้)

 

เลือกชมเพชร CVD (Lab Grown Diamond) และ เครื่องประดับของเราได้ที่นี่

ผู้เขียนบทความ

ขออภัย! ไม่สามารถคัดลอกข้อความได้